eToro Review

ผลิตภัณฑ์ของโบรกเกอร์ eToro

เหตุผลหนึ่งที่ eToro ได้รับความนิยมอย่างมากนอกเหนือไปจากตัวเลือกของการเทรดทางโซเชียล ก็คือ เครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อนซึ่งตอบสนองต่อแนวโน้มล่าสุดของการเทรดสกุลเงินดิจิตอล ความสามารถในการเทรดของเครื่องมือจำนวนมากอาจดูเหมือนล่อลวงเทรดเดอร์ทุกคน อย่างไรก็ตามจากการตัดสินโดยดูที่พอร์ตโฟลิโอของเทรดเดอร์ที่ดีที่สุดใน eToro พบว่าทุกคนอาจทำการเทรดด้วยเครื่องมือที่พวกเขาคุ้นเคยเท่านั้น นี่คือเครื่องมือทางการเงินที่ทาง eToro นำเสนอ:

• คู่สกุลเงิน 47 คู่: ซึ่งรวมไปถึงคู่ที่มีสภาพคล่องมากที่สุด เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY ตลอดจนสกุลเงินที่มีสภาพคล่องน้อย เช่น โฟรินท์ฮังการี (HUF) เปโซเม็กซิกัน (MXN) ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) รูเบิลรัสเซีย (RUB) แรนด์ของแอฟริกาใต้ (ZAR) โปแลนด์ ซโลตี้ (PLN) ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) หยวนจีน (CNY) หรือแม้แต่ ลีร่าตุรกี (TRY)
• สกุลเงินดิจิตอล 7 ตัว: eToro มีเฉพาะสกุลเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) บิตคอยน์ แคช (Bitcoin Cash) อีเธอเรีย (Ethereum) อีเธอเรียม คลาสสิค (Ethereum Classic) ไลท์ คอยน์ (Litecoin) แดช (Dash) และริบเบิ้ล (Ripple)
• หุ้น CDFs 959 ตัว แลกเปลี่ยนข้าม 8 ตัว: หุ้นเหล่านี้รวมถึงหุ้นในยุโรป และสหรัฐอเมริกา เช่น เฟสบุ๊ค (Facebook) ไมโครซอร์ฟ (Microsoft) อินเทล (Intel) ฟอร์ด (Ford) เบสท์ บาย (Best Buy) แมคโดนัลด์ (McDonalds) แป๊บซี่โค (PepsiCo) ดัตช์ เทเลคอม (Deutsche Telekom) บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW) แกล็กโซสมิธไคลน์ (GlaxoSmithKline) และอีกมากมาย หุ้น CFDs จากการซื้อที่ eToro จะไม่มีค่าอะไรหากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น
• ดัชนี 12 ตัว: ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เช่น Nasdaq 100, S&P500, UK 100, จีน 50, Ger 30 และอื่น ๆ
• สินค้าโภคภัณฑ์ 6 ตัว: สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่มีการเทรดกันบ่อยที่สุด ซึ่งได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง ทองคำขาว น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
• CFDs ของกองทุน Exchange Traded Funds 59 ตัว (ETFs): ก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ (UNG) ดัชนีตลาดเกิดใหม่ (EEM) iShares Japan (EWJ) Gold Miners ETF (GDX), ตลาดซื้อขายล่วงหน้าระยะสั้น Vix (VXX) และอื่น ๆ อีกมากมาย
• การเทรดทางโซเชี่ยล แพลตฟอร์มการเทรดทางโซเชี่ยลของ eToros นั้นเป็นระบบเลียนแบบการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่ได้รับความนิยม และได้รับกำไรบนแพลตฟอร์มนั่นจึงอาจเป็นสาเหตุว่าทำไม eToro ถึงมีชื่อเสียง ซึ่งหมายความว่าหากเทรดเดอร์ได้รับผลลัพธ์ที่ดี ลูกค้าก็สามารถติดตามเทรดเดอร์เหล่านี้ แล้วทำการเลียนแบบการเทรดในแบบเดียวกันของเทรดเดอร์ในบัญชีของตัวเอง

เงื่อนไขการเทรดของ eToro

 เงื่อนไขการเทรดที่ eToro นั้นคล้ายคลึงกับเงื่อนไขของโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ในแง่ของเลเวอเรจ eToro มอบทางเลือกที่แตกต่างกันให้กับลูกค้าโดยขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ลูกค้าใช้สำหรับทำการเทรด ตัวอย่างเช่น เมื่อทำการเทรดหุ้น CFDs ลูกค้ามีตัวเลือกเพื่อเพิ่มเลเวอเรจไปเป็น 1:2, 1:5 และ 1:10 ด้วยดัชนี และระดับเลเวอเรจเพิ่มเติมจะช่วยให้สามารถเพิ่มเลเวอเรจสำหรับฟอเร็กซ์ไปเป็น 1:25, 1:50, 1:100 ได้ eToro นำเสนอระดับเลเวอเรจเพิ่มเติมที่ 1: 200 และ 1:400 ซึ่งสูงที่สุดที่โบรกเกอร์ได้นำเสนอ แต่ไม่ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาในอุตสาหกรรม สุดท้าย หากลูกค้าเลือกที่จะแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล พวกเขาจะต้องชำระด้วยเลเวอเรจแบบคงที่ซึ่งอยู่ที่ 1:1 โดยได้รับความนิยมกันมากขึ้นในหมู่โบรกเกอร์เมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 เนื่องจากความผันผวนอย่างรุนแรงของสกุลเงินดิจิตอลที่อาจทำให้เทรดเดอร์ และโบรกเกอร์ได้รับการสูญเสียจำนวนมาก  

การดำเนินการตามคำสั่งของ eToros ควรจะดีกว่านี้โดยเฉพาะการเทรดฟอเร็กซ์ ในขณะที่เรากำลังทดสอบแพลตฟอร์ม เราสังเกตว่าการดำเนินการตามคำสั่งซื้อขายนั้นแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การเทรดฟอเร็กซ์อาจใช้เวลาสองสามวินาทีในการดำเนินการตามคำสั่ง ในขณะที่เครื่องมืออื่น ๆ จะดำเนินการได้เร็วกว่า 

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอโบนัส eToro นำเสนอโบนัสให้กับลูกค้าของพวกเขาด้วยโบนัส ‘แนะนำเพื่อน’ ในขณะที่เรากำลังเขียนรีวิวนี้เท่านั้น สำหรับลูกค้ามาจากการแนะนำทุกคน จากทั้งสองฝ่าย (ผู้แนะนำ และผู้ที่ได้รับการแนะนำ) จะได้รับ 20 ดอลลาร์หลังจากการฝากเงินครั้งแรก จำนวนเงินสูงสุดสำหรับการแนะนำเพื่อนคือ 200 ดอลลาร์

หลังจากการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในกฎหมายโดยผู้กำกับดูแลของยุโรป โบรกเกอร์ได้ถูกบังคับให้ปรับองค์ประกอบบางอย่างที่พวกเขาได้นำเสนอซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า เช่น โบนัสเงินฝาก และเลเวอเรจที่สูงขึ้น เป็นต้น

ประเภทบัญชีของ eToro

eToro มีบัญชีสี่ประเภทสำหรับการเทรดให้กับลูกค้าของพวกเขาซึ่งเรามีความพึงพอใจเนื่องจากบัญชีเหล่านั้นเหมาะสมกับเทรดเดอร์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือมีประสบการณ์ บัญชีเหล่านี้คือ:

• บัญชีพอร์ตโฟลิโอเสมือนจริง บัญชีประเภทนี้มีให้ทุกคนใช้งาน และไม่ต้องมีเงินทุน เป็นบัญชีทดลองแบบมาตรฐานที่พบกันในโบรกเกอร์รายอื่น ๆ แต่มีชื่อไม่เหมือนกัน เหมาะสำหรับกลยุทธ์การทดสอบ และการเรียนรู้แพลตฟอร์มการเทรดของ eToro
• บัญชีพอร์ตโฟลิโอจริง นี่คือบัญชีมาตรฐานที่ใช้สำหรับการเทรดด้วยเงินจริง 
• บัญชีอิสลาม บัญชีประเภทนี้ให้บริการเฉพาะชาวมุสลิมเนื่องจากเรื่องของศาสนา บัญชีอิสลามที่ไม่มีข้อเสนอเรื่องดอกเบี้ยในสัญญาที่มีระยะเวลายาวนานกว่า 24 ชั่วโมง ไม่มีการค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืน ไม่มีดอกเบี้ยในเลเวอเรจ และไม่มีค่าคอมมิชชั่น EToro อ้างว่ารายได้ของพวกเขาสำหรับบัญชีประเภทนี้มาจากค่าสเปรดเท่านั้น 
• บัญชีบริษัท บัญชีประเภทนี้เหมือนกับบัญชีพอร์ตโฟลิโอจริงโดยบัญชีประเภทนี้ถูกกำหนดไว้สำหรับนิติบุคคลเท่านั้น  

สรุปรวม ๆ แล้ว eToro มีบัญชีจริงเพียงประเภทเดียว นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ eToro ไม่ได้สามารถไล่ตามคู่แข่งได้ในขณะที่คู่แข่งมีตัวเลือกของบัญชีให้เลือกมากมาย บัญชีไมโคร (Micro) และมินิ (Mini) ได้รับความนิยมในหมู่โบรกเกอร์รายอื่น ๆ ซึ่งมีขนาดของสัญญาอยู่ที่ 1,000/10,000 แทนที่ขนาดสัญญา 100,000 ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเทรดด้วยเงินจริง บัญชีอื่น ๆ ที่กำลังดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก ก็คือบัญชี ซีโร่ สเปรด (Zero Spread) โดยที่โบรกเกอร์เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นแทนค่าสเปรด เหมือนอย่างที่พวกเขาจะเรียกเก็บใน ECN 

ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมของ eToro

เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายอื่น ๆ eToro มีค่าสเปรดสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ค่อนข้างสูง คู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุดเช่น EUR/USD และ GBP/USD มีค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3 pips และ 4 pips ในช่วงเวลาที่มีการซื้อขายในกรุงลอนดอน และนิวยอร์ก สกุลเงินบางคู่มีค่าสเปรด 7 pip (เช่น EUR/AUD และ EUR/CAD) ค่าสเปรดสูงสุดอาจสูงถึง 20 pips (สำหรับคู่ PLN และ ZAR) คู่สกุลเงินมีค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนซึ่งอาจเป็นบวก หรือลบได้ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินนั้น ๆ

สกุลเงินดิจิตอลมีค่าสเปรด 2% จากมูลค่าของสกุลเงินเอง (สำหรับ อีเธอเรียม) สำหรับ บิตคอยน์ แคช และอีเธอเรียม คลาสสิคมีค่าสเปรดสูงถึง 5% ในขณะที่บิตคอยน์มีค่าสเปรดต่ำสุดอยู่ที่ 0.70% สกุลเงินดิจิตอลทั้งหมดมีค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนติดลบสำหรับตำแหน่ง short (ขาย) ในขณะที่ตำแหน่ง long (ซื้อ) คือมีค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนอยู่ที่ 0

หุ้น CFDs มีค่าสเปรดแบบผันแปรโดยขึ้นอยู่กับหุ้นแต่ละตัว และอุตสาหกรรมของหุ้นแต่ละตัว ตัวอย่างหุ้นบางตัว เช่น Alcoa (AA) มีค่าสเปรดของมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 0.24% (ซึ่งเป็นค่าสเปรดขสำหรับหุ้น CFDs ส่วนใหญ่) ในขณะที่ Apple (AAPL) มีค่าสเปรดอยู่ที่ 8 จุด นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมสำหรับหุ้นทั้งหมดไม่ว่าลูกค้าจะซื้อ หรือขายก็ตาม

สินค้าโภคภัณฑ์มีค่าสเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 5 pips สำหรับน้ำมัน สำหรับทองมีค่าสเปรดอยู่ที่ 45 pips แต่ถ้าลูกค้าตัดสินใจขายน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ พวกเขาจะได้รับค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนที่เป็นบวก อย่างไรก็ตาม eToro มีดัชนีมีค่าสเปรดสูงสุดโดยเริ่มตั้งแต่ 100 pips สำหรับ SPX500 และสูงถึง 1000 pips สำหรับ JPN225 ค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนมีค่าเป็นค่าลบสำหรับทั้งการซื้อ และขายดัชนีแต่ละตัว

กองทุน ETFs มีค่าสเปรดแบบคงที่ซึ่งอยู่ที่ 0.24% พร้อมมีค่าธรรมเนียมแบบข้ามคืนที่เป็นลบจากการซื้อ และขายกองทุน ETFs

eToro ยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับบัญชีที่ไม่มีการเข้าใช้งานเป็นเวลา 4 เดือน หากมีเงินทุนสำหรับการหักค่าธรรมเนียมนี้ หากเทรดเดอร์เข้าใช้บัญชีก็จะได้รับการพิจารณาอีกครั้ง

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือของ eToro

eToro มีเพียงแค่แพลตฟอร์มบนเว็บเพียงอย่างเดียวให้กับผู้ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ และแอพฯ บนมือถือสำหรับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งสองเวอร์ชั่นมี 13 ภาษาไว้ให้บริการ

การสำรวจบนแพลตฟอร์มสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ และเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์นั้นตรงไปตรงมา และใช้งานง่าย สามารถค้นหาเครื่องมือสำหรับการเทรดทั้งหมดได้ในแท็บของ ตลาดการซื้อขาย ซึ่งถูกจัดเรียบตามหัวข้อย่อย (หุ้น สกุลเงิน กองทุน ETF และอื่น ๆ อีกมากมาย) และเมื่อคุณเลือกเครื่องมือที่คุณต้องการจะเทรด หรือตรวจสอบ คุณมีตัวเลือกจากหลายตัวเลือก: เพื่อดู กราฟแท่งเทียน เพื่อตรวจสอบข้อมูลของราคาในอดีต และเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือเฉพาะด้าน เช่น อะไรที่มีผลกระทบต่อราคา และมีผลกระทบอย่างไรซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสกุลเงินดิจิตอล 

ตัวเลือกอีกอย่างที่เครื่องมือสำหรับการเทรด มีก็คือฟีดข่าวทางโซเชียล ที่เทรดเดอร์ทุกรายบนแพลตฟอร์ม eToro สามารถแบ่งปันข่าวสาร ข้อมูล หรือความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านั้นได้

แท็บถัดไปบนแพลตฟอร์มการซื้อขาย คือ แท็บเลียนแบบจากผู้อื่น โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการทำกำไรตามที่พวกเขาต้องการติดตามได้ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะเลียนแบบกิจกรรมทั้งหมดของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เทรดเดอร์เหล่านี้ถูกจัดอันดับตามสถิติของความเสี่ยง และผลกำไรซึ่งทำให้เทรดเดอร์ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มีข้อมูลมากพอที่จะบอกว่าควรติดตามใคร เมื่อลูกค้าเลือกเทรดเดอร์เพื่อติดตามแล้ว พวกเขาจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลพอร์ตโฟลิโอของการเทรดเดอร์ที่พวกเขาติดตามได้ทันที สามารถเข้าถึงข้อมูลสถิติ เช่น ผลการดำเนินการรายเดือน การวิเคราะห์กำไร/ขาดทุน เครื่องมือที่เทรดเดอร์กำลังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และสุดท้ายก็คือ ฟีดข่าวทางโซเชียลซึ่งแสดงการโต้ตอบระหว่างเทรดเดอร์กับชุมชนของ eToro

eToro ได้เพิ่ม 'เงินทุนสกุลเงินดิจิตอล' เข้ามาล่าสุดโดยซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถลอกเลียนแบบเงินทุนได้ โดยพื้นฐานแล้วจะมีการรวบรวมเครื่องมื่อต่าง ๆ เอาไว้ในที่เดียว เงินทุนสกุลเงินดิจิตอล (CryptoFund) มีสกุลเงินดิจิตอลหลัก ๆ อยู่ 7 สกุลเงิน

สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ แพลตฟอร์มของ eToros มีตัวบ่งชี้การสร้างกราฟพื้นฐานทั้งหมดรวมถึงมีตัวเลือกในการใช้เครื่องมืออื่น ๆ ร่วมกันซึ่งอาจเป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือที่มีความสัมพันธ์กัน น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกในการเพิ่มตัวชี้วัดที่คุณสามารถกำหนดเองได้ซึ่งน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

 แพลตฟอร์ม eToro และฟังก์ชั่นการสร้างกราฟนั้นออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ และเทรดเดอร์ผู้ที่มีประสบการณ์ มันอาจจะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ดูดี แต่มันมีโครงสร้างที่ดี และสามารถใช้งานได้ง่าย

ในขณะที่เรากำลังเขียนรีวิวนี้ eToro ไม่รองรับซอฟต์แวร์การเทรดแบบอัตโนมัติ

สามารถใช้งาน eToro บนมือถือได้ง่ายดายหรือไม่?

เว็บไซต์ของ eToro นั้นได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์มือถือทั้งหมด และคุณสามารถทำการเทรดได้อย่างอิสระโดยใช้แพลตฟอร์มบนเว็บของพวกเขา พวกเขายังมีแอพฯ มือถือสำหรับ Android และ iOS และประสบการณ์ในการเทรดระหว่างแพลตฟอร์มบนเว็บ และแอพฯ บนอุปกรณ์มือถือนั้นมีเหมือนกัน

ทั้งแอพฯ และแพลตฟอร์มบนเว็บสามารถเปลี่ยนเป็นแนวนอน และแนวตั้งได้โดยไม่สูญเสียพื้นที่ในการสร้างกราฟ

การฝากเงิน และการถอนเงินของ eToro

การฝากเงินทุนด้วย eToro ทำได้รวดเร็ว และง่ายดาย บัญชีของพวกเขาทั้งหมดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นสำหรับเงินฝากในสกุลเงินอื่น eToro มีค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงินตามสกุลเงินที่นำฝาก

eToro มีค่าธรรมเนียมการฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งแตกต่างจากโบรกเกอร์รายอื่น ๆ โดยถือว่าสูงเป็นพิเศษเนื่องจากโบรกเกอร์ผู้ให้บริการฟอเร็กซ์รายย่อยทั่วทั้งตลาดได้ทำการปรับลดข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำเป็น 5 ดอลลาร์ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ eToro ล้าหลังก็คือ ไม่มีการวมค่าธรรมเนียมการฝาก และถอนเงินเอาไว้ ลูกค้าจะต้องเป็นผู้จ่ายชำระเอง

ลูกค้าสามารถฝากเงินได้หลายช่องทาง เช่น:

• บัตรเครดิต (Visa, Visa Electron, and Mastercard, Maestro)
• Paypal
• โอนเงินผ่านทางธนาคาร
• UnionPay
• Neteller
• Skrill
• Webmoney
• Yandex

เมื่อพูดถึงการถอนเงิน eToro ไม่ถือว่าดีเท่าไหร่ ค่าธรรมเนียมการแปลงเหมือนกันกับเงินฝากกองทุน ผ่านการเพิ่มด้วย 'ค่าธรรมเนียมดำเนินการถอนเงิน' ขึ้นอีก 25 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเจอกับโบรกเกอร์รายอื่น ๆ มันเป็นกำแพงขวางกั้นทำให้ลูกค้าลังเลเมื่อจะทำการถอนเงินทุน

จำนวนเงินที่ถอนได้ขั้นต่ำ คือ 50 ดอลลาร์ และ eToro อ้างว่าใช้เวลาดำเนินการ 1 วันทำการในการถอนเงิน แต่ลูกค้าได้รับเงินภายใน 5 วันทำการ อย่างไรก็ตามลูกค้าหลายรายอ้างว่าพวกเขาได้รับเงิน และระยะเวลาในการดำเนินการถอนเงินของพวกเขาไม่เคยนานเกิน 5 วัน

แผนกลูกค้าสัมพันธ์ของ eToro

ลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือในภาษาที่แตกต่างกัน 10 ภาษาผ่านทางบริการด้วยการออกหมายเลขตั๋วให้ทางอีเมลโดยที่ลูกค้าทำการส่งคำถาม แล้วรอคำตอบซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายวัน โบรกเกอร์ยังมีบริการไลฟ์แชทให้กับลูกค้าซึ่งให้บริการเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วัน

นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว eToro ยังมีที่อยู่อีเมลอีกสามอีเมลที่แตกต่างกันซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อได้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ พันธมิตร และการพัฒนาธุรกิจ

ในเรื่องที่ว่าโบรกเกอร์ไม่มีการบริการไลฟ์แชทให้ในทุกภาษา และไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ลูกค้าสามารถขอรับความช่วยเหลือได้เป็นสิ่งที่แสดงว่า eToro มีบริการให้ความช่วยเหลือลูกค้าไม่เพียงพอ ค่อนข้างเป็นที่น่าผิดหวังเนื่องจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องการไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ

การวิจัย และการเรียนรู้ของ eToro

เมื่อมองดูอย่างรวดเร็วในครั้งแรกดูเหมือนว่า eToro มีตัวเลือกในการเรียนรู้มากมายตั้งแต่การสัมมนาผ่านเว็บแบบสด และการสัมมนาผ่านเว็บแบบออนดีมานด์ ไปจนถึงหลักสูตรการเทรดแบบโต้ตอบสองทาง และสุดท้ายก็คือ บล็อก แต่เมื่อคุณมองดูดี ๆ แล้ว คุณจะสังเกตเห็นว่าตัวเลือกในการเรียนของพวกเขาไม่มีเนื้อหาไม่กว้างเท่าที่ควร ตัวอย่างเช่น การสัมมนาผ่านเว็บแบบออนดีมานด์ มีวิดีโอทั้งหมด 7 รายการ ซึ่งมีตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 45 นาที เกี่ยวกับเรื่องการเทรด และภาษาต่างๆ บล็อกของพวกเขาได้รับการปรับปรุงหนึ่งครั้ง หรือสองครั้งต่อสัปดาห์ และไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทุกโพสต์บนบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องของสกุลเงินดิจิตอล หลักสูตรการค้าแบบโต้ตอบสองทางเท่านั้นที่มีการให้บริการใน 10 ภาษาซึ่งมีค่าสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

ในด้านการวิจัยแพลตฟอร์มการเทรดของ eToro มีการนำเสนอแหล่งข้อมูลการวิจัยสำหรับหุ้น CFDs แต่เฉพาะผู้ที่มีบัญชีจริงเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงได้

ประเด็นสำคัญของ eToro

xtagstartza="" href="

บทสรุปของ eToro

eToro อาจเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์เพียงรายเดียวที่มีเครื่องมือสำหรับการเทรดมากมาย และหลากหลายรวมอยู่ในที่เดียวกัน แพลตฟอร์ม eToro ใช้งานได้ง่าย และสามารถเข้าถึงได้จากคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนทุกเครื่องโดยผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ซึ่งทำให้เป็นวิธีที่สะดวกในการแลกเปลี่ยน หรือจัดการพอร์ตโฟลิโอสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ และเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์

อีกเหตุผลหนึ่งที่ลูกค้าบางคนอาจพิจารณาเลือก eToro ก็คือ ระบบการเทรดทางโซเชียลที่มีให้ใช้บริการ มันเป็นวิธีที่สนุก และทำให้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้วิธีการเทรด และมันเป็นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาทำการเทรด เพียงแค่เลือกเทดเดอร์ และแล้วลอกเลียนแบบวิธีการเทรดของพวกเขา เรายังคงอยากเตือนให้ผู้ใช้งานของเราระมัดระวังเรื่องของการปล่อยให้ผู้อื่นตัดสินใจว่าจะลงทุนเงินของคุณอย่างไร แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเทรด คือ พื้นฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง

ข้อเสียจุดที่ใหญ่ที่สุดที่เราไม่ชอบของ eToro ก็คือ วิธีจัดการเรื่องการฝากเงิน และถอนเงินของพวกเขา เงินฝากขั้นต่ำ 1,000 ดอลลาร์ นั้นอยู่ในระดับที่สูงมากสำหรับเทรดเดอร์มือ และผู้ที่ต้องการฝากเงินจำนวนน้อยเพื่อทดสอบแพลตฟอร์มก่อนที่จะทำการลงทุนอย่างจริงจัง นอกจากนี้การเงินฝากที่ไม่ได้อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะถูกแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ (คาดว่าจะมีการเพิ่มผลกำไรในการแปลงค่าเงิน) และยังมีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินที่สูงอีกด้วย ในทางตรงกันข้าม มาตรฐานขั้นต่ำของการฝากเงินในอุตสาหกรรมของปีที่ผ่านอยู่ที่ 5 ดอลลาร์พร้อมค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการฝากเงินซึ่งโบรกเกอร์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว ลูกค้ามีตัวเลือกในการเลือกสกุลเงินตามที่พวกเขาต้องการ (เช่น EUR, USD, GBP, JPY) ซึ่งทำให้มองข้ามเรื่องต้นทุนของการแปลงค่าเงินไป

ในด้านการถอนเงิน จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินอยู่ที่ 25 ดอลลาร์ ซึ่งในความเห็นของเราถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณเนื่องจากความจริงแล้วมันคือค่าธรรมเนียมที่ยับยั้งไม่ให้ลูกค้าทำการถอนเงิน นอกจากนี้ เรื่องที่เทรดเดอร์บางรายบ่นว่าพวกเขาไม่ได้รับการดำเนินการถอนเงินซึ่งนี่อาจเป็นปัญหาที่ต้องคำนึงถึง

นอกจากนี้เรายังไม่ชอบการยื่นข้อเสนอค่าสเปรดที่สูงซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับเทรดเดอร์ผู้ที่ใช้กลยุทธ์การเก็งกำไรระยะสั้น (scalping) ได้